BSBBet188

แพลตฟอร์มเดิมพันออนไลน์ที่ทันสมัย ปลอดภัย


เควิน เดอ บรอยน์ ประกาศอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สิ้นสุดฤดูกาลนี้

เควิน เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) มิดฟิลด์ชาวเบลเยียมวัย 33 ปี ได้ยืนยันว่าเขาจะอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เมื่อสัญญาของเขาหมดลงในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากตำนานของนักเตะที่ได้สร้างความสำเร็จมากมายให้กับสโมสรแห่งนี้ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ตลอด 9 ปีกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ย้ายจาก โวล์ฟสบวร์ก (Wolfsburg) มาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ในปี 2015 และตลอดระยะเวลา 9 ปีที่อยู่กับสโมสร เขาได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจด้วยการคว้าแชมป์รวมทั้งสิ้น 16 รายการ ซึ่งรวมถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) 6 สมัย และแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ในปี 2023 ตลอดการค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ลงสนามไปทั้งหมด 413 นัดในทุกรายการ ทำได้ 106 ประตู แต่ในฤดูกาลนี้เขาได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงเพียง 19 เกมเท่านั้น เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่เข้ามารบกวน “ทุกเรื่องราวย่อมมีวันสิ้นสุด ทางเข้าสโบ แต่บทนี้เป็นบทที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน” กัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แสดงความรู้สึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมากับสโมสร

 

ตำนานของ พรีเมียร์ลีก ที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม กับสุดยอดกองกลางระดับโลก เควิน เดอ บรอยน์

 

เดอ บรอยน์ (De Bruyne) จะถูกจดจำในฐานะตำนานของ พรีเมียร์ลีก (Premier League) อย่างไม่ต้องสงสัย มีแฟนบอลรายหนึ่งเล่าประสบการณ์ที่ได้ชมเขาลงสนามในเกมที่พบกับ นิวคาสเซิล (Newcastle) เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เมื่อเดอ บรอยน์ (De Bruyne) ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในช่วงแรกเขาเล่นได้ไม่ดีนัก จนแฟนบอลเริ่มส่งเสียงเยาะเย้ย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ทำประตูได้และยังทำแอสซิสต์ที่สวยงามที่สุดเท่าที่แฟนบอลผู้นี้เคยเห็น ทำให้เสียงเยาะเย้ยเงียบลงในทันที

ความสำเร็จของ เดอ บรอยน์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ในเดือนสิงหาคม 2015 เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ได้คว้าแชมป์สำคัญรวม 14 รายการ ประกอบด้วย:

 

แชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) 6 สมัย

แชมป์ เอฟเอ คัพ (FA Cup) 2 สมัย

แชมป์ ลีก คัพ (League Cup) 5 สมัย

แชมป์ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) 1 สมัย

 

เควิน เดอ บรอยน์ กับ โอกาสสุดท้ายในการคว้าถ้วยรางวัล กับแมนฯ ซิตี้

 

ขณะนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ยังมีลุ้นในรายการ เอฟเอ คัพ (FA Cup) โดยพวกเขาผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว ซึ่งนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ในการคว้าถ้วยรางวัลร่วมกับทีมก่อนอำลา ผลงานอันยอดเยี่ยมของ เดอ บรอยน์ ในฐานะมิดฟิลด์ระดับโลก ทางเข้าสโบ

ตลอดช่วงเวลาที่ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เขาได้พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ความสามารถในการจ่ายบอลที่แม่นยำ และการยิงประตูที่ทรงพลัง ทำให้เขากลายเป็นกำลังสำคัญของทีมภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ได้สร้างชื่อในฐานะราชาแอสซิสต์ของ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ด้วยความสามารถในการสร้างโอกาสทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีมอย่างมหาศาล นอกจากนี้ เขายังมีทักษะในการยิงประตูจากระยะไกลที่น่าทึ่ง ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ครบเครื่องและมีค่าอย่างมากสำหรับสโมสร ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ได้สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมายให้กับแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) หนึ่งในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการคว้าแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ครั้งแรกของสโมสรในปี 2023 ซึ่งเป็นรายการที่พวกเขารอคอยมานาน นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ยังมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) 3 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 2017-2019 และอีก 3 สมัยในปี 2021-2023 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมและบทบาทสำคัญของเขาในทีม แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เดอ บรอยน์ (De Bruyne) จะย้ายไปร่วมทีมใดหลังจากออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) แต่มีรายงานว่าเขาอาจจะมุ่งหน้าสู่ลีกอื่น เช่น เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (Major League Soccer) ในสหรัฐอเมริกา หรือลีกในประเทศแถบตะวันออกกลางที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ด้วยฝีเท้าและประสบการณ์ของเขา เดอ บรอยน์ (De Bruyne) ยังคงเป็นที่ต้องการของสโมสรชั้นนำในยุโรปหลายแห่ง และเชื่อว่าเขาจะยังคงสามารถแสดงศักยภาพในระดับสูงได้อีกหลายปี มรดกที่ เดอ บรอยน์ ทิ้งไว้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ การจากไปของ เดอ บรอยน์ (De Bruyne) จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) แต่มรดกที่เขาทิ้งไว้จะยังคงอยู่กับสโมสรไปอีกนาน เขาจะถูกจดจำในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ให้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุโรป สำหรับแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) การได้เห็น เดอ บรอยน์ (De Bruyne) สวมเสื้อสีฟ้าลงสนามอีกไม่กี่เกมที่เหลือในฤดูกาลนี้ จะเป็นโอกาสสุดท้ายในการชื่นชมความสามารถของนักเตะที่ได้สร้างความทรงจำอันแสนวิเศษให้กับพวกเขามาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะยังคงเป็นตำนานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) และ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ตลอดไป

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Justen Bieber