แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ภายใต้การนำของเป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ต้องเจอกับคำถามมากมายเกี่ยวกับฟอร์มการเล่น โดยเฉพาะปัญหาในเกมรับที่ยังแก้ไขไม่ได้ หลังจากที่พวกเขาเสมอกับเฟเยนูร์ด (Feyenoord) 3-3 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก การปล่อยให้คู่แข่งตามตีเสมอทั้งที่นำห่าง 3-0 ทำให้เกิดข้อกังขาถึงความมั่นคงของทีมก่อนการเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูล (Liverpool) ในศึกพรีเมียร์ลีก
เกมรับที่เปราะบางและฟอร์มที่ตกต่ำ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้เสียสองประตูหรือมากกว่าในหกเกมติดต่อกันในทุกการแข่งขัน นับเป็นสถิติที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 1963 โดยปัญหาหลักอยู่ที่ความไม่สามารถควบคุมเกมในสถานการณ์ที่ได้เปรียบได้ดีพอ
ในเกมกับเฟเยนูร์ด เออร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland) ทำประตูนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 53 แต่หลังจากนั้นทีมก็ไม่สามารถรักษาความได้เปรียบไว้ได้ ส่งผลให้พวกเขาถูกตีเสมอในช่วงท้ายเกม แฟนบอลในสนามเอทิฮัด (Etihad Stadium) ถึงกับโห่ใส่ทีมหลังสิ้นเสียงนกหวีด
คำวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญ
อลัน เชียเรอร์ (Alan Shearer) อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ กล่าวว่า “พวกเขาดูอ่อนแอ เบาบาง และไม่มั่นคง” และยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตัดสินใจของทีมในช่วงท้ายเกมว่า “แม้จะนำ 3-2 แต่พวกเขาก็เล่นฟรีคิกอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ควรจะปิดเกมให้จบ”
ในขณะเดียวกัน เป๊ป กวาร์ดิโอลาเองก็ยอมรับถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่าทีมของเขายัง “เปราะบาง” และย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องความสำเร็จที่เคยสร้างไว้
ความท้าทายที่รออยู่
ผลเสมอในเกมนี้ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องเจอกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูล (Liverpool) ในสุดสัปดาห์นี้ การเผชิญหน้ากับทีมคู่ปรับที่แอนฟิลด์ (Anfield) ถือเป็นบททดสอบสำคัญว่าพวกเขาจะสามารถฟื้นตัวจากฟอร์มที่ตกต่ำได้หรือไม่
การป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังเผชิญหน้ากับบทพิสูจน์ครั้งสำคัญ และความสามารถในการปรับปรุงเกมรับอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดอนาคตของทีมในฤดูกาลนี้
เว็บไซต์หลายแห่งนำเสนอ ข่าวกีฬา ที่ครอบคลุมทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล และกีฬาอื่นๆ จากทั่วโลก การติดตาม ข่าวกีฬา เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่รักในกีฬาและต้องการอัปเดตข้อมูลล่าสุดอย่างต่อเนื่อง